พ.ร.บ.โรงงานฉบับใหม่ มีผลบังคับวันที่ 27ตลุาคม 2562 SME มีเฮเมื่อพ.ร.บ.โรงงานปลดล็อค
ร่าง พ.ร.บ.โรงงานฉบับนี้การปรบัเปลี่ยนและตัดบางมาตราของ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 (ฉบบัเดิม) เช่น การปลดล็อค โรงงานขนาดเล็กออกจากการควบคมุ การตัด อำนาจกรมโรงงานเข้าไปควบคมุตรวจสอบ หรือ เปิดช่องเอกชนตรวจสอบ โรงงานกันเอง-ช่วยกันเอง ซึ่งทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการลดมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและชมุชน จนมีภาค ประชาชนออกมาคัดค้าน
แก้นิยาม “โรงงาน” กับ “การต้ังโรงงาน” ลดการควบคมุโรงงานขนาดเล็ก
ในร่าง พ.ร.บ.โรงงานฉบบัใหม่ มาตรา 4 มีการแก้ไขนิยามของคำว่า 'โรงงาน' ใหม่ ให้หมายถึง อาคาร สถานที่ พาหนะที่ใช้ เครื่องจักรขนาดต้ังแต่ 50 แรงม้าข้ึนไปหรือกิจการที่มีคนงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป
ซึ่งข้อกำหนดเช่นนี้จะทำให้โรงงานมากกว่า 60,000 แห่งท่ั่วประเทศที่มีกำลังแรงม้าและคนงานต่ำกว่าเกณฑ ์ไม่ถูกจัดเป็น โรงงานภายใต้การกำกับดแูลกฎหมายโรงงาน แต่จะอย่ภูายใต้การดแูลของข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือ พ.ร.บ. สาธารณะสุข พ.ศ 2535 แทนซึ่งสามารถประกอบกิจการไดโ้ดยไม่ต้องคำนึงถึงผังเมืองหรือทำเลที่ตั้ง
ในขณะเดยีวกัน ก็มกีารแก้ไขเรื่องนยิาม "การตงั้โรงงาน" ดว้ย โดยหมายถึงการนา เครื่องจกัรเขา้มาติดตงั้เท่านั้น หรือนา คนมา ประกอบกิจการโรงงาน ซึ่งต่างจากพ.ร.บ.ฉบบัเก่าวา่ “การตงั้โรงงาน” คือการก่อสรา้งอาคารเพื่อติดตงั้เครื่องจกัร การกา หนด นิยามเช่นนที้า ใหเ้กิดขอ้กังวลว่า จะเปิดช่องใหผ้ปู้ระกอบการสามารถสรา้งอาคารโรงงานไดโ้ดยไม่ตอ้งขอใบอนญุาตประกอบ กิจการโรงงานก่อน และค่อยติดตงั้เครื่องจกัรทหีลงั
นอกจากน ี้อาจจะส่งผลเสยีหายรุนแรงต่อชมุชนภายหลงั เนื่องบางกิจการที่ใชเ้ครื่องจกัรขนาดเล็กและมีคนจา นวนไม่มาก แต่ เป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสงูและกระทบกับสิ่งแวดลอ้ม ตวัอย่างเช่น กิจการคดัแยกของเสีย กิจการหล่อหลอม กิจการรีไซเคิล ของเสีย การจดัเก็บสารเคมีอนัตราย และอื่นๆ อีกทงั้ยงัเออื้โรงงานขนาดใหญ่สามารถตงั้โรงงานไดโ้ดยไม่ตอ้งมีใบอนญุาต ประกอบกิจการ
รวมถึง อาจทา ใหเ้กิดการลดัขนั้ตอนการทา รายงานผลกระทบทางสิ่งแวดลอ้ม (EIA/ EHIA) ซึ่งทา ใหเ้กิดความหละหลวมใน การตรวจสอบและขาดการพิจารณาถึงความเหมาะสมของทา เลที่ตงั้โรงงาน และผลกระทบอื่นๆที่ถกูมองขา้ม
และในมมุของผปู้ระกอบการก็อาจจะไดร้บัผลกระทบไปดว้ย เช่น หากเกิดปัญหาระยะยาวจากสารมลพิษและความขดัแยง้กับ ชมุชน ผปู้ระกอบการตอ้งเสียงค่าใชจ้่ายในการสคู้ดี ค่าเสียหายจากผลกระทบต่อสขุภาพชมุชน และโดยเฉพาะค่าใชจ้่ายใน
การฟื้นฟพูนื้ที่ปนเปื้อนมลพษิ
จากการศกึษาของมหาวิทยาลยัฮาวารดใ์นปี 2557 จะพบว่า ในการจดัการความขดัแยง้ ผปู้ระกอบการตอ้งรบัผิดชอบ ค่าใชจ้่ายที่ไม่ไดป้ระเมิณไวส้งูถึงรอ้ยละ 35-50 รวมถึงเสยีเวลาและโอกาสการขยายธรุกิจอีกทงั้ไดร้บัปริมาณการผลิตที่ นอ้ยลง
ยกเลกิระบบ 'ต่อใบอนญุาต' ตดัอา นาจการควบคมุโรงงาน
ร่าง พ.ร.บ.โรงงาน ฉบบัใหม่ ในมาตรา 10 มีการยกเลกิระบบการขอต่อใบอนญุาตประกอบกิจการโรงงานทกุ 5 ปี ออกไป และ ในขณะเดยีวกันยงัใหผ้ปู้ระกอบการเป็นฝ่ายรบัรองตนเองแทนเจา้หนา้ทรี่ฐัหรือเอกชน
ปัญหาที่ทา ใหเ้กิดความกังวลคือ ที่ผ่านมาการกา หนดใหม้ีการต่ออายใุบอนญุาตประกอบกิจการทกุ 5 ปี เป็นสิ่งจา เป็นเพราะ เป็นการใหเ้จา้หนา้ที่รฐัตรวจสอบสภาพโรงงาน เครื่องจกัร รวมถึงความปลอดภยัต่อสิ่งแวดลอ้มและชมุชนที่อย่ใูกลว้่าจะ สามารถดา เนินการเปิดต่อไปไดห้รือไม่ และการใหผู้้ประกอบการรบัรองตนเองก็เป็นการลดบทบาทการตรวจสอบของกรม โรงงานลง และทา ใหห้ลกัปฏิบตัิตามเงื่อนไขในการออกใบอนญุาตถกูละเลย หากโรงงานอย่ใูนสภาพไม่ปลอดภยัก็จะไม่ไดร้บั การแก้ไข
เปิดช่องเอกชนตรวจสอบโรงงานกันเอง-ช่วยกันเอง
ร่าง พ.ร.บ.โรงงาน ฉบบัใหม่ ในมาตรา 9 ระบวุ่า การตรวจสอบโรงงานหรือเครื่องจกัรสามารถใหผ้ตู้รวจสอบโรงงานเป็นบคุคล ธรรมดาหรือนิติบคุลดา เนินการและจดัทา รายงานผลตรวจสอบแทนพนกังานเจา้หนา้ที่ได้
ทงั้ที่ โดยปกติแลว้การตรวจสอบสภาพเครื่องจกัรหรือโรงงาน เดิมเป็นความรบัผิดชอบของเจา้หนา้ทกี่รมโรงงานอตุสาหกรรม แต่ทวา่กฎหมายใหม่ทา ใหเ้จา้หนา้ที่รฐัไม่สามารถตรวจสอบสภาพโรงงานและออกมาตราการการกา กับดแูลใหผ้ปู้ระกอบการ นา ไปปรบัปรุงแก้ไขได้
อย่างไรก็ตาม ในมาตรานเี้ปิดช่องใหบ้รรดาเอกชน ไม่ว่าจะเป็นบคุคลรายเดียวหรือนิติบคุคล ตรวจสอบกันเองและอาจนา ไปสู่ การทจุริตไดส้่งผลใหม้าตรการตรวจสอบเพื่อปอ้งกันมีปัญหา
ตดัมาตรการเยยีวยาความเสยีหายจากโรงงาน
ในร่าง พ.ร.บ.โรงงาน ฉบบัใหม่ มกีารตดัมาตราว่าดว้ยประกันภยั หรือหลกัประกันหรือกองทนุเพื่อการเยยีวยาความเสียหายที่ อาจเกิดขนึ้จากการประกอบกิจการโรงงาน หรือเพื่อการฟื้นฟ ูหรือเพื่อการทา ให้พนื้ที่ตงั้โรงงาน หรือบริเวณโดยรอบกลบัคืนสู่ สภาพเดิมหรือสภาพที่เหมาะสม ออกไป ซึ่งมาตราดงักลา่ว เป็นมาตราสา คญัและควรนา มาปรบัใชเ้พื่อรกัษาสิ่งแวดลอ้มและ
สขุภาพของประชาชน รวมถึงยงัเป็นการสรา้งธรรมาภิบาลใหผ้ปู้ระกอบการทจี่ะตอ้งรบัผิดชอบสา หรบัการแก้ไขสิ่งแวดลอ้ม ที่ว่าผสู้รา้งมลพิษตอ้งเป็นผจู้า่ย ทวา่ไดม้ีการตดัมาตรานที้งิ้ซึ่งแสดงใหเ้หน็วา่ภาครฐัใหค้วามสา คญัแค่ผปู้ระกอบการและเออื้ ความสะดวกในการลงทนุเท่านนั้
บทลงโทษผปู้ระกอบการใชต้งั้แต่ปี 35 ไม่เคยแก้ไข
แมว้า่ร่าง พ.ร.บ. โรงงานไดม้ีการบญัญัติโทษไวท้ี่ มาตรา 57 ว่าหากไม่ปฏิบตัิตามคา ส่งัใหแ้ก้ไขของเจา้หนา้ที่ ในกรณีที่ โรงงานก่อความเสียหาย ตอ้งระวางโทษจา คกุไม่เกิน 1 ปี ปรบัไม่เกิน 1 แสน ปรบัอีกวนัละไม่เกิน 5,000 ตลอดเวลาทฝี่่าฝืน แต่บทลงโทษ พ.ร.บ. โรงงานอนันกี้า หนดไวต้งั้แต่ปี พ.ศ. 2535 ปัจจบุนัก็ไม่ไดป้รบัปรุงแก้ไขเพื่อใหท้นัต่อสถานการณ์ สิ่งแวดลอ้มที่เปลยี่นแปลงไป
ที่ผ่านมา บทลงโทษตวันลี้า้สมยัและไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะปราบปรามการทา ผิดหรือใหผ้กู้ระทา ผิดเกรงกลวั เนื่องจาก ผกู้ระทา ผิด สามารถจา่ยค่าปรบัได ้ขณะเดียวกันเจา้หนา้ทกี่็มีขอ้จา กัดในการออกคา ส่งัใหป้รบัปรุงหรือพกัการดา เนินกิจการ สา หรบัผปู้ระกอบการที่กระทา ผิดซา ้ๆ รวมถึงมีขอ้จา กัดในการใชด้ลุพินิจทจี่ะลงโทษปรบัทางแพ่ง หรือโทษทางอาญา เป็น ตน้ อีกทงั้ในกรณีที่ไดร้บัพลกระทบจากมลพิษ ประชาชนสามารถเรียกค่าเสยีหายจากรฐัได ้แต่ประชาชนก็ตอ้งไปฟอ้งรอ้งศาล