Morning Talk
“การสื่อสาร” นับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เพราะหากขาดการสื่อสารที่ดีแล้ว งานย่อมเกิดการสะดุดและมีปัญหาไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม เรื่องของการสื่อสารกลับเป็นสิ่งที่หลายองค์กรประสบปัญหา ซึ่งจากที่ผมได้มีโอกาสศึกษาเรื่องการสื่อสาร พบว่าปัญหาของเกือบทุกองค์กรที่ผมได้มีโอกาสรับโจทย์จากลูกค้าก่อนไปสอน นั่นก็คือ
1. การไม่รับฟังซึ่งกันและกันในการทำงาน
2. การใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ ทำให้คนอื่นเสียหาย เสียหน้า เสียใจ และเสียความรู้สึก
3. การไม่มีสัมมาคารวะต่อคนอื่นๆ การแสดงออกทางภาษากายที่ไม่ดี
4. ขาดระบบในการทำงานร่วมกันในองค์กร

การทำงานในแต่ละวัน เราจะมองข้ามเรื่องการสื่อสารไม่ได้เลยครับ เพราะแม้ปัญหาเพียงเล็กน้อย หากไม่ยอมเปิดใจคุยกัน ทำความเข้าใจร่วมกัน และรีบแก้ปัญหาให้จบ ปัญหานั้นอาจบานปลายและในที่สุดอาจกลายเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไขได้ทัน โดยเฉพาะองค์กรไหนที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงงานตลอดเวลา ผมเชื่อว่าการสื่อสารระหว่างกันช่วยได้ครับ ทั้งนี้ ในเรื่องของการสื่อสาร ผมไม่อยากให้คุณผู้อ่านคิดถึงการใช้ “คำพูด” เพียงอย่างเดียวนะครับ เพราะการสื่อสารมีเรื่องของภาษากายและน้ำเสียงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้นเวลาที่เราจะสื่อสารกับใคร ควรใช้ทั้งคำพูด น้ำเสียง และภาษากายที่เหมาะสมไปพร้อมๆ กัน ย่อมดีกว่าใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งครับ

บทความในตอนนี้ ผมอยากให้คุณผู้อ่านได้ทำความเข้าใจในเรื่องการสื่อสารกับลูกน้อง โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้างานที่ต้องเข้าใจภาพรวมของการทำงานในแต่ละวันเพื่อดูแลให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรที่ตั้งเอาไว้ ซึ่งเครื่องมือที่ดีอย่างหนึ่งที่ใช้เวลาไม่มาก และสามารถทำให้เกิดการรับรู้เป้าหมายในการทำงานร่วมกันอย่างชัดเจน ช่วยให้เรามีโอกาสไปถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น นั่นก็คือ “การประชุม Morning Talk” หรือการประชุมก่อนเริ่มงานในทุกๆ เช้าครับ เพื่อให้หัวหน้างานได้แสดงบทบาทผู้นำที่มีภาวะผู้นำ โดยการกระตุ้น สร้างกำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกน้องมีความเชื่อมั่นในการทำงาน มีความมุ่งมั่นในการทำงาน มีเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน รวมถึงช่วยกันแก้ไขปัญหา ปรับปรุง และพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น โดยประเด็นที่ใช้ในการประชุมทุกเช้านั้นมีไม่กี่เรื่อง แต่ถือว่าเป็นหัวใจในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ได้แก่
ข้อที่ 1 ประเด็นปัญหาจากการทำงานและแนวทางแก้ไข
ข้อที่ 2 เป้าหมายในการทำงานของวันนี้
ข้อที่ 3 เรื่องที่ต้องเน้นย้ำและตระหนักให้เกิดนิสัยในเชิงบวก
ข้อที่ 1 ประเด็นปัญหาจากการทำงานจากเมื่อวาน
ในการทำงานแต่ละวัน ต่อให้วางแผนไว้ดีแค่ไหนก็ย่อมมีโอกาสพบเจอปัญหาได้เสมอ (ยกเว้นคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลยที่อาจไม่เจอปัญหา) ดังนั้นการประชุม Morning Talk ก็เพื่อให้ทีมงานได้ร่วมกันค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้ปัญหาเดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำอีก ซึ่งการประชุมที่ดี หัวหน้าต้องกล้าเปิดใจรับฟังเสียงของลูกน้องเพื่อสร้างแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยต้องคิดเสมอว่า คนที่อยู่หน้างานย่อมรู้ปัญหาดีที่สุด การให้ลูกน้องเสนอแนะไอเดียในการแก้ไขปัญหาย่อมทำให้ลูกน้องเกิดการตระหนักและมีความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหาในแต่ละวัน ซึ่งขั้นตอนการเสนอแนะไอเดียแก้ไขปัญหา หัวหน้าต้องฟังอย่างไม่ตัดสิน แต่ขอบคุณที่ลูกน้องเสนอแนะไอเดียและจดแนวทางแก้ไขปัญหานั้นไว้เพื่อใช้ในการตัดสินใจต่อไป


ข้อที่2 เป้าหมายในการทำงานแต่ละวัน
หลังจากที่เราได้พูดคุยในประเด็นแรกของปัญหาและแนวทางแก้ไขกันแล้วนั้น ก่อนเริ่มต้นทำงานทุกๆ วัน หัวหน้าควรชี้แจงทำความเข้าใจในเป้าหมายของการทำงาน เพื่อให้ลูกน้องมีความคิดในทิศทางเดียวกับหัวหน้า ซึ่งการพูดคุยในเรื่องเป้าหมายนั้นต้องชี้แจงให้ชัดเจนถึงปลายทางที่เราต้องการว่าเป็นอย่างไร การจะไปถึงเป้าหมายในแต่ละวันต้องทำอย่างไร ดังนั้น ทุกเช้าก่อนที่จะประชุม หัวหน้าควรมีการวางแผนการทำงานก่อนประชุมเพื่อจัดลำดับการทำงานว่า เช้าควรทำอะไร บ่ายควรทำอะไร หรือหากใครที่ต้องทำงานในเชิงของปริมาณและตัวเลข ก็ควรบอกลูกน้องให้ชัดเจนถึงยอดขายหรือยอดผลิตในแต่ละวัน เพื่อขอความร่วมมือทุกคนให้ช่วยกันผลักดันเป้าหมายในวันนั้นให้ลุล่วง และหากบรรลุเป้าหมายในแต่ละวันได้สำเร็จ ก่อนกลับบ้าน หัวหน้าก็ควรเรียกลูกน้องมาและกล่าวขอบคุณเพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานต่อไป

ข้อที่ 3 เรื่องที่ต้องเน้นย้ำและตระหนักให้เกิดนิสัยในเชิงบวก
ข้อนี้ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก เพราะหัวหน้าต้องปลูกฝังความคิดให้แก่ทีมงานในทุกๆ วัน โดยบอกถึงวัตถุประสงค์ของการทำงานในเชิงบวก เพื่อให้ทีมงานเกิดความรับรู้ร่วมกันว่า เมื่อทำงานสำเร็จแล้วจะเกิดผลดีอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ก็ต้องบอกถึงผลเสียหากทำงานผิดพลาด จะเกิดผลเสียในด้านใด โดยเน้นย้ำถึงสิ่งที่ต้องระมัดระวังในการทำงาน เช่น เรื่องความปลอดภัย (หากงานที่ทำมีความเสี่ยง) นอกจากนี้ถ้ามีข่าวสารหรือนโยบายของบริษัทฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงก็ควรนำมาแจ้งให้ลูกน้องทราบด้วย เพื่อให้ทุกคนตระหนักในการร่วมแรงร่วมใจพัฒนางานให้ดีขึ้นต่อ

สรุป
การประชุม Morning Talk ในแต่ละวันนั้น ไม่ควรใช้เวลาสั้นเกินไปจนขาดสาระ หรือยาวนานจนเกินไปจนเบียดบังเวลาในการทำงาน ซึ่งตามมาตรฐานควรใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที (จากประสบการณ์ที่ไปบรรยาย เคยพบบางหน่วยงานจัดให้มีการประชุม Morning Talk ทุกวัน นับว่าเป็นเรื่องดี ติดตรงที่เขาใช้เวลาวันละมากกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งผมมองว่าเสียเวลาเกินไปครับ สู้เอาเวลานั้นไปลงมือปรับปรุงหรือพัฒนางานจะดีกว่า) โดยทุกครั้งสิ่งที่หัวหน้างานควรทำในการประชุม นั่นคือ การจัดทำรายงานสรุปผลการประชุมในแต่ละวัน ทุกครั้งในการประชุมต้องมีเอกสารประกอบการประชุมเพื่อให้สามารถสรุปผลการประชุมได้ในแต่ละวัน ซึ่งผมเองจะใช้แบบฟอร์ม Morning Talk ในการคุมการประชุมทุกครั้งเพื่อให้ทราบถึงปัญหาของงานพร้อมแนวทางแก้ไข เป้าหมายงานของวันนี้ การสอนงานเพื่อการตระหนักตอกย้ำ การมอบหมายงานให้ลูกน้องทำงาน การเช็คขาด ลา มาสาย สรุปจำนวนกำลังคนที่ทำงานในวันนั้นๆ

Cr:FB Sanya Kasirakorn

นี่คือกล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง เช่น แบนเนอร์ โปรโมชั่น บทความ แนะนำร้านค้า หรือ รายการสินค้าเด่น เป็นต้น โดยคุณสามารถแก้ไขหรือลบกล่องนี้ได้หากคุณต้องการ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีการแก้ไขข้อความในกล่อง เข้าสู่โหมดตกแต่งร้าน > คลิกเลือกที่กล่องนี้ > เลือกเมนูข้อความ
เข้าสู่โหมดตกแต่งร้าน > คลิกเลือกที่กล่องนี้ > เลือกเมนูข้อความ

ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน คนมีที่ดินต้องรู้ไว้
      การซื้อที่ดินนั้นมีเงินอย่างเดียวไม่พอ จะต้องมีความรู้ด้วยเพื่อจะได้ไม่ถูกใคร เ อ า เ ป รี ย บ ช่ อ โ ก ง กันได้ เพราะที่ดินเองนั้นมีหลายขั้นตอนกว่าจะกลายมาเป็นของเราโดยสมบูรณ์ และวันนี้เรามีความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย การรังวัด โฉนดที่ดิน รวม แบ่งแยก และ สอบเขตที่ดิน รวมไปถึงการตรวจสอบเนื้อที่เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ด้วย มีอะไรบ้างที่คนมีที่ดินจะต้องรู้
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
หากคุณเป็นเจ้าของที่ดินจะต้องมีความรู้และทราบข้อเหล่านี้
  – ที่ดินที่ครอบครองอยู่มีหลักฐานอะไร ให้นำหลักฐานที่มีไปประกอบการยื่นคำขอ รังวัดที่ดิน
 – ที่ดินตั้งอยู่ที่ไหน หมู่ที่เท่าใด ตำบล อำเภอ อะไร
 – เจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นผู้ใดบ้าง ติดที่สาธารณประโยชน์หรือไม่
 – สภาพที่ดินเป็นอย่างไร เช่น ที่นา ที่สวน ที่ไร่ ที่อยู่อาศัย
          สำหรับการยื่นคำร้องขอรังวัดที่ดินนั้นเราสามารถไปทำเรื่องได้ที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือจะเป็นที่สำนักงานทีจังหวัดสาขา หรือในเขตที่ดินอำเภอก็ได้ โดยเอาที่ว่าที่ดินในโฉนดที่เราจะเอาไปยื่นนั้นตั้งอยู่ในเขตไหนก็ไปที่นั่นเลย ยกเว้นว่า ได้มีการยกเลิกอำนาจนายอำเภอค่อยไปติดต่อกับสำนักงานที่ดินจังหวัดก็ได้ ก่อนจะทำจัดการทำเรื่องก็อย่าเตรียมเอกสารต่าง ๆ ไปให้พร้อม
หลักฐานประกอบการขอรังวัด แบ่งแยก หรือสอบเขตโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
  – บัตรประจำตัว ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัวชื่อสกุล (ถ้ามี)
 – โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
 – หลักฐานประกอบการขอรังวัดรวมโฉนดที่ดิน
 – บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล (ถ้ามี)
 – โฉนดที่ดินที่จะขอรวม ต้องมีลักษณะดังนี้
(1) ต้องเป็นหนังสือสำคัญแสดง ก ร ร ม สิ ท ธิ์ ประเภทเดียวกัน เว้นแต่ โฉนดแผนที่ กับโฉนดที่ดินให้รวมกันได้
(2) ต้องมีชื่อผู้ถือ ก ร ร ม สิ ท ธิ์ ที่ดินในโฉนดที่ดินเหมือนกันทุกฉบับและต้องยังมีชีวิตอยู่ทุกคน
(3) ต้องเป็นที่ดินติดต่อผืนเดียวกัน ในจังหวัดและสำนักงานที่ดินเดียวกัน
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
ขั้นตอนการรังวัด แบ่งแยก รวม สอบเขตที่ดิน
 1. รับบัตรคิวจากประชาสัมพันธ์
2. รับคำขอสอบสวน ชำระเงิน ค่ า ธ ร ร ม เ นี ย ม คำขอ
3. ส่งฝ่ายรังวัดดำเนินการ นัดวันทำการรังวัด กำหนดตัวช่างรังวัด กำหนดเงินมัดจำรังวัด
4. ค้นหารายชื่อเจ้าของที่ดินข้างเคียง และพิมพ์หนังสือแจ้งข้างเคียง
5. รับหนังสือแจ้งข้างเคียง วางเงินมัดจำรังวัด รับหลักเขตที่ดิน
6. ช่างรังวัดออกไปทำการรังวัดตามวันที่กำหนดไว้
7. คำนวณเนื้อที่ และเขียนรูปแผนที่ในโฉนดที่ดิน
8. ส่งเรื่องรังวัดคืนฝ่ายทะเบียน เรียกผู้ขอมาจดทะเบียน
9. สอบสวนจดทะเบียนแบ่งแยก
10. ตรวจอายัด
11. ชำระเงินค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน และค่าโฉนด
12. แก้รายการทะเบียน และจดทะเบียนแบ่งแยก
13. สร้างโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก
14. เสนอเจ้าพนักงานที่ดินลงนามและประทับตรา
15. แจกโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
ขั้นตอนการขอแบ่งแยกตรวจสอบเนื้อที่ และรวมหนังสือรับรองการทำประโยชน์
 1. เจ้าของที่ดินนำหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเอกสารต่าง ๆ ไปยื่นคำขอ
2. ให้ถ้อยคำในการนัดรังวัด เพื่อกำหนดวันทำการรังวัด
– กำหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัด
– กำหนดเจ้าหน้าที่และสถานที่นัดพบ
3. รับเจ้าหน้าที่ไปทำการรังวัดและปักหลัก จนเสร็จการ
4. ลงนามในเอกสารต่าง ๆ
5. รอรับหนังสือแจ้งให้ไปดำเนินการจดทะเบียน ฯลฯ
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรังวัดหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และโฉนดที่ดิน รายละเอียด
1. ค่าธรรมเนียมออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– ที่ดินเนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่ แปลงละ 30 บาท
– ที่ดินเนื้อที่เกิน 20 ไร่ ส่วนที่เกิน( เศษของไร่ให้คิดเป็นหนึ่งไร่) ไร่ละ 2 บาท
2. ค่าธรรมเนียมการพิสูจน์สอบสวนหรือตรวจสอบเนื้อที่เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– ถ้าเรียกเป็นรายแปลง แปลงละ 30 บาท
– ถ้าเรียกเป็นรายวัน วันละ 30 บาท
– ค่าคัดหรือจำลองแผนที่ แปลงละ 30 บาท
– ค่าคำนวณเนื้อที่หรือสอบแส แปลงละ 30 บาท
– ค่าจับระยะ แปลงละ 10 บาท
3. ค่าธรรมเนียมออกโฉนดที่ดิน
– ที่ดินเนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่ แปลงละ 50 บาท
– ที่ดินเนื้อที่เกิน 20 ไร่ ส่วนที่เกิน( เศษของไร่ให้คิดเป็นหนึ่งไร่ ) ไร่ละ 2 บาท
4. ค่าธรรมเนียมรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดิน
– ถ้าเรียกเป็นรายแปลง แปลงละ 40 บาท
– ถ้าเรียกเป็นรายวัน วันละ 40 บาท
– ค่าคัดหรือจำลองแผนที่ แปลงละ 30 บาท
– ค่าคำนวณเนื้อที่หรือสอบแส แปลงละ 30 บาท
– ค่าจับระยะ แปลงละ 10 บาท
5. ค่าธรรมเนียมเบ็ดเตล็ด
– ค่าคำขอ แปลงละ 5 บาท
– ค่ามอบอำนาจ เรื่องละ 20 บาท
– ค่าปิดประกาศให้แก่ผู้ปิดประกาศ แปลงละ 10 บาท
– ค่าพยานให้แก่พยาน คนละ 10 บาท
– ค่าหลักเขต หลักละ 15 บาท
6. ค่าใช้จ่ายการรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดินหรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเนื้อที่เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– ค่าพาหนะเดินทางให้แก่เจ้าพนักงาน พนักงานเจ้าหน้าที่ และคนงานจ้างไปทำการรังวัด ให้จ่ายในลักษณะเหมาจ่ายตามระเบียบ
– กระทรวงมหาดไทยด้วยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
– ค่าเบี้ยเลี้ยงให้แก่เจ้าพนักงาน พนักงานเจ้าหน้าที่ และค่าจ้างคนงานที่จ้างไปทำการรังวัด ให้จ่ายในลักษณะเหมาจ่ายตามระเบียบ
– กระทรวงมหาดไทย ด้วยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
– ค่าป่ายการให้แก่เจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่ หรือผู้แทนที่ไปในการรังวัด ไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
– ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการรังวัดให้จ่ายในลักษณะเหมาจ่ายตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยด้วยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เรื่องละ 100 บาท
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
การคิดค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดิน
 ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดินที่ผู้ขอจะต้อชำระตามกฎหมาย (กฎกระทรวง ฉบับที่ 47 และ 48 ออกตามความในพระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497) มีดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมรังวัด
– เกี่ยวกับโฉนดที่ดิน แปลง/วัน/ละ 40 บาท
– เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แปลง/วัน/ละ 30 บาท
2. ค่าหลักเขตที่ดิน หลักละ 15 บาท (ตามที่ใช้จริง)
3. ค่าใช้จ่ายในการรังวัดลักษณะเหมาจ่าย ดังนี้
3.1 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าส่งหมายข้างเคียงทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ 200 บาท
3.2 ค่าป่วยการเจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่ ไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
3.3 ค่าพาหนะพนักงานเจ้าหน้าที่และคนงานรังวัด วันละไม่เกิน 1,600 บาท
3.4 ค่าคนงานรังวัด คน/วัน 420 บาท (ตามเขตจังหวัดที่กระทรวงการคลังกำหนด)
ทั้งนี้ การกำหนดวันทำการรังวัดตามข้อ 3.3 และ 3.4 กำหนดตามจำนวนเนื้อที่ ดังนี้
การรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดิน
1. เนื้อที่ไม่เกิน 5 ไร่ เวลาทำการ 1 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่ 3,480 บาท
2. เนื้อที่ไม่เกิน 15 ไร่ เวลาทำการ 2 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 6,760 บาท
3. เนื้อที่ไม่เกิน 30 ไร่ เวลาทำการ 3 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 10,040 บาท
4. เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ เวลาทำการ 4 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 13,320 บาท
การรังวัดเกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– เนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่ เวลาทำการ 1 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 2,640 บาท
– เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ เวลาทำการ 2 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 5,080 บาท
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
หมายเหตุ
– กรณีเนื้อที่เกินกว่า 50 ไร่ ทุก 50 ไร่ หรือเศษเกินกว่า 25 ไร่ ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
– กรณีที่ดินตั้งอยู่ในพื้นที่องค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ หรือเทศบาลนคร หรือเทศบาลเมือง หรือที่สวนเป็นไม้ ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ เป็นต้น ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
– กรณีการรังวัดต้องคำนวณจำกัดเนื้อที่ ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
- กรณีการรังวัดมีที่ดินข้างเคียงมากแปลง ทุกๆข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
– กรณีการรังวัดแบ่งแยกจัดสรร ทุกๆ 8 แปลง หรือเศษเกินกว่า 4 แปลง ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
– กรณีมีเหตุข้อ1 และ 2 รวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน ให้เพิ่มวันทำการรังวัดได้ในกรณีใดกรณีหนึ่งเท่านั้น
จะเห็นว่ามีอะไรค่อนข้างจุกจิกและดูยุ่งยากมากทีเดียว แต่ก็ไม่ยากอะไรสำหรับคนที่เคยทำมาบ้างแล้วจะทำง่ายขึ้น คล่องในการเตรียมตัวเตรียมเอกสาร และที่สำคัญคือเตรียมค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ในแต่ละขั้นตอนด้วย หากคุณไม่รู้เรื่องอะไรเหล่านี้เลยที่ดินที่คุณมีอาจจะค่อย ๆ กลายเป็นของคนอื่นแบบที่คุณไม่รู้สึกตัวเลยก็ได้ ฉะนั้นก็มีความรู้ติดตัวเอาไว้บ้างจะดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมที่ดิน , sharenoi

นี่คือกล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง เช่น แบนเนอร์ โปรโมชั่น บทความ แนะนำร้านค้า หรือ รายการสินค้าเด่น เป็นต้น โดยคุณสามารถแก้ไขหรือลบกล่องนี้ได้หากคุณต้องการ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีการแก้ไขข้อความในกล่อง เข้าสู่โหมดตกแต่งร้าน > คลิกเลือกที่กล่องนี้ > เลือกเมนูข้อความ
 เข้าสู่โหมดตกแต่งร้าน > คลิกเลือกที่กล่องนี้ > เลือกเมนูข้อความ 
| หน้าที่เข้าชม | 68,136 ครั้ง | 
| ผู้ชมทั้งหมด | 45,441 ครั้ง | 
| เปิดร้าน | 9 มิ.ย. 2562 | 
| ร้านค้าอัพเดท | 17 ต.ค. 2568 | 
 
					