พ.ร.บ.โรงงานฉบับใหม่ มีผลบังคับ27ตุลาคม 2562
SME มีเฮเมื่อพ.ร.บ.โรงงานปลดล็อค
ร่าง พ.ร.บ.โรงงานฉบับนี้มีการปรับเปลี่ยนและตัดบางมาตราของ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 (ฉบับเดิม) เช่น การปลดล็อคโรงงานขนาดเล็กออกจากการควบคุม การตัดอำนาจกรมโรงงานเข้าไปควบคุมตรวจสอบ หรือ เปิดช่องเอกชนตรวจสอบโรงงานกันเอง-ช่วยกันเอง ซึ่งทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการลดมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและชุมชน จนมีภาคประชาชนออกมาคัดค้าน
แก้นิยาม “โรงงาน” กับ “การตั้งโรงงาน” ลดการควบคุมโรงงานขนาดเล็ก
ในร่าง พ.ร.บ.โรงงานฉบับใหม่ มาตรา 4 มีการแก้ไขนิยามของคำว่า 'โรงงาน' ใหม่ ให้หมายถึง อาคาร สถานที่ พาหนะที่ใช้เครื่องจักรขนาดตั้งแต่ 50 แรงม้าขึ้นไปหรือกิจการที่มีคนงานตั้งแต่ 50 คนขึ้น
ซึ่งข้อกำหนดเช่นนี้จะทำให้โรงงานมากกว่า 60,000 แห่งทั่วประเทศที่มีกำลังแรงม้าและคนงานต่ำกว่าเกณฑ์ ไม่ถูกจัดเป็นโรงงานภายใต้การกำกับดูแลกฎหมายโรงงาน แต่จะอยู่ภายใต้การดูแลของข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือ พ.ร.บ. สาธารณะสุข พ.ศ 2535 แทนซึ่งสามารถประกอบกิจการได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงผังเมืองหรือทำเลที่ตั้ง
ในขณะเดียวกัน ก็มีการแก้ไขเรื่องนิยาม "การตั้งโรงงาน" ด้วย โดยหมายถึงการนำเครื่องจักรเข้ามาติดตั้งเท่านั้น หรือนำคนมาประกอบกิจการโรงงาน ซึ่งต่างจากพ.ร.บ.ฉบับเก่าว่า “การตั้งโรงงาน” คือการก่อสร้างอาคารเพื่อติดตั้งเครื่องจักร การกำหนดนิยามเช่นนี้ทำให้เกิดข้อกังวลว่า จะเปิดช่องให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างอาคารโรงงานได้โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานก่อน และค่อยติดตั้งเครื่องจักรทีหลัง
นอกจากนี้ อาจจะส่งผลเสียหายรุนแรงต่อชุมชนภายหลัง เนื่องบางกิจการที่ใช้เครื่องจักรขนาดเล็กและมีคนจำนวนไม่มาก แต่เป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูงและกระทบกับสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น กิจการคัดแยกของเสีย กิจการหล่อหลอม กิจการรีไซเคิลของเสีย การจัดเก็บสารเคมีอันตราย และอื่นๆ อีกทั้งยังเอื้อโรงงานขนาดใหญ่สามารถตั้งโรงงานได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการ
รวมถึง อาจทำให้เกิดการลัดขั้นตอนการทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA/ EHIA) ซึ่งทำให้เกิดความหละหลวมในการตรวจสอบและขาดการพิจารณาถึงความเหมาะสมของทำเลที่ตั้งโรงงาน และผลกระทบอื่นๆที่ถูกมองข้าม
และในมุมของผู้ประกอบการก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย เช่น หากเกิดปัญหาระยะยาวจากสารมลพิษและความขัดแย้งกับชุมชน ผู้ประกอบการต้องเสียงค่าใช้จ่ายในการสู้คดี ค่าเสียหายจากผลกระทบต่อสุขภาพชุมชน และโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนมลพิษ
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวารด์ในปี 2557 จะพบว่า ในการจัดการความขัดแย้ง ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ประเมิณไว้สูงถึงร้อยละ 35-50 รวมถึงเสียเวลาและโอกาสการขยายธุรกิจอีกทั้งได้รับปริมาณการผลิตที่น้อยลง
ยกเลิกระบบ 'ต่อใบอนุญาต' ตัดอำนาจการควบคุมโรงงาน
ร่าง พ.ร.บ.โรงงาน ฉบับใหม่ ในมาตรา 10 มีการยกเลิกระบบการขอต่อใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานทุก 5 ปี ออกไป และในขณะเดียวกันยังให้ผู้ประกอบการเป็นฝ่ายรับรองตนเองแทนเจ้าหน้าที่รัฐหรือเอกชน
ปัญหาที่ทำให้เกิดความกังวลคือ ที่ผ่านมาการกำหนดให้มีการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการทุก 5 ปี เป็นสิ่งจำเป็นเพราะเป็นการให้เจ้าหน้าที่รัฐตรวจสอบสภาพโรงงาน เครื่องจักร รวมถึงความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่อยู่ใกล้ว่าจะสามารถดำเนินการเปิดต่อไปได้หรือไม่ และการให้ผู้ประกอบการรับรองตนเองก็เป็นการลดบทบาทการตรวจสอบของกรมโรงงานลง และทำให้หลักปฏิบัติตามเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตถูกละเลย หากโรงงานอยู่ในสภาพไม่ปลอดภัยก็จะไม่ได้รับการแก้ไข
เปิดช่องเอกชนตรวจสอบโรงงานกันเอง-ช่วยกันเอง
ร่าง พ.ร.บ.โรงงาน ฉบับใหม่ ในมาตรา 9 ระบุว่า การตรวจสอบโรงงานหรือเครื่องจักรสามารถให้ผู้ตรวจสอบโรงงานเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคลดำเนินการและจัดทำรายงานผลตรวจสอบแทนพนักงานเจ้าหน้าที่ได้
ทั้งที่ โดยปกติแล้วการตรวจสอบสภาพเครื่องจักรหรือโรงงาน เดิมเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม แต่ทว่ากฎหมายใหม่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถตรวจสอบสภาพโรงงานและออกมาตราการการกำกับดูแลให้ผู้ประกอบการนำไปปรับปรุงแก้ไขได้
อย่างไรก็ตาม ในมาตรานี้เปิดช่องให้บรรดาเอกชน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลรายเดียวหรือนิติบุคคล ตรวจสอบกันเองและอาจนำไปสู่การทุจริตได้ส่งผลให้มาตรการตรวจสอบเพื่อป้องกันมีปัญหา
ตัดมาตรการเยียวยาความเสียหายจากโรงงาน
ในร่าง พ.ร.บ.โรงงาน ฉบับใหม่ มีการตัดมาตราว่าด้วยประกันภัย หรือหลักประกันหรือกองทุนเพื่อการเยียวยาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการโรงงาน หรือเพื่อการฟื้นฟู หรือเพื่อการทำให้พื้นที่ตั้งโรงงาน หรือบริเวณโดยรอบกลับคืนสู่สภาพเดิมหรือสภาพที่เหมาะสม ออกไป ซึ่งมาตราดังกล่าว เป็นมาตราสำคัญและควรนำมาปรับใช้เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน รวมถึงยังเป็นการสร้างธรรมาภิบาลให้ผู้ประกอบการที่จะต้องรับผิดชอบสำหรับการแก้ไขสิ่งแวดล้อมที่ว่าผู้สร้างมลพิษต้องเป็นผู้จ่าย ทว่าได้มีการตัดมาตรานี้ทิ้งซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาครัฐให้ความสำคัญแค่ผู้ประกอบการและเอื้อความสะดวกในการลงทุนเท่านั้น
บทลงโทษผู้ประกอบการใช้ตั้งแต่ปี 35 ไม่เคยแก้ไข
แม้ว่าร่าง พ.ร.บ. โรงงานได้มีการบัญญัติโทษไว้ที่ มาตรา 57 ว่าหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้แก้ไขของเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่โรงงานก่อความเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน ปรับอีกวันละไม่เกิน 5,000 ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน แต่บทลงโทษ พ.ร.บ. โรงงานอันนี้กำหนดไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ปัจจุบันก็ไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
ที่ผ่านมา บทลงโทษตัวนี้ล้าสมัยและไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะปราบปรามการทำผิดหรือให้ผู้กระทำผิดเกรงกลัว เนื่องจากผู้กระทำผิด สามารถจ่ายค่าปรับได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็มีข้อจำกัดในการออกคำสั่งให้ปรับปรุงหรือพักการดำเนินกิจการสำหรับผู้ประกอบการที่กระทำผิดซ้ำๆ รวมถึงมีข้อจำกัดในการใช้ดุลพินิจที่จะลงโทษปรับทางแพ่ง หรือโทษทางอาญา เป็นต้น อีกทั้งในกรณีที่ได้รับพลกระทบจากมลพิษ ประชาชนสามารถเรียกค่าเสียหายจากรัฐได้ แต่ประชาชนก็ต้องไปฟ้องร้องศาลเอง
นี่คือกล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง เช่น แบนเนอร์ โปรโมชั่น บทความ แนะนำร้านค้า หรือ รายการสินค้าเด่น เป็นต้น โดยคุณสามารถแก้ไขหรือลบกล่องนี้ได้หากคุณต้องการ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีการแก้ไขข้อความในกล่องขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน คนมีที่ดินต้องรู้ไว้
การซื้อที่ดินนั้นมีเงินอย่างเดียวไม่พอ จะต้องมีความรู้ด้วยเพื่อจะได้ไม่ถูกใคร เ อ า เ ป รี ย บ ช่ อ โ ก ง กันได้ เพราะที่ดินเองนั้นมีหลายขั้นตอนกว่าจะกลายมาเป็นของเราโดยสมบูรณ์ และวันนี้เรามีความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย การรังวัด โฉนดที่ดิน รวม แบ่งแยก และ สอบเขตที่ดิน รวมไปถึงการตรวจสอบเนื้อที่เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ด้วย มีอะไรบ้างที่คนมีที่ดินจะต้องรู้
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
หากคุณเป็นเจ้าของที่ดินจะต้องมีความรู้และทราบข้อเหล่านี้
– ที่ดินที่ครอบครองอยู่มีหลักฐานอะไร ให้นำหลักฐานที่มีไปประกอบการยื่นคำขอ รังวัดที่ดิน
– ที่ดินตั้งอยู่ที่ไหน หมู่ที่เท่าใด ตำบล อำเภอ อะไร
– เจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นผู้ใดบ้าง ติดที่สาธารณประโยชน์หรือไม่
– สภาพที่ดินเป็นอย่างไร เช่น ที่นา ที่สวน ที่ไร่ ที่อยู่อาศัย
สำหรับการยื่นคำร้องขอรังวัดที่ดินนั้นเราสามารถไปทำเรื่องได้ที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือจะเป็นที่สำนักงานทีจังหวัดสาขา หรือในเขตที่ดินอำเภอก็ได้ โดยเอาที่ว่าที่ดินในโฉนดที่เราจะเอาไปยื่นนั้นตั้งอยู่ในเขตไหนก็ไปที่นั่นเลย ยกเว้นว่า ได้มีการยกเลิกอำนาจนายอำเภอค่อยไปติดต่อกับสำนักงานที่ดินจังหวัดก็ได้ ก่อนจะทำจัดการทำเรื่องก็อย่าเตรียมเอกสารต่าง ๆ ไปให้พร้อม
หลักฐานประกอบการขอรังวัด แบ่งแยก หรือสอบเขตโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– บัตรประจำตัว ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัวชื่อสกุล (ถ้ามี)
– โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– หลักฐานประกอบการขอรังวัดรวมโฉนดที่ดิน
– บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล (ถ้ามี)
– โฉนดที่ดินที่จะขอรวม ต้องมีลักษณะดังนี้
(1) ต้องเป็นหนังสือสำคัญแสดง ก ร ร ม สิ ท ธิ์ ประเภทเดียวกัน เว้นแต่ โฉนดแผนที่ กับโฉนดที่ดินให้รวมกันได้
(2) ต้องมีชื่อผู้ถือ ก ร ร ม สิ ท ธิ์ ที่ดินในโฉนดที่ดินเหมือนกันทุกฉบับและต้องยังมีชีวิตอยู่ทุกคน
(3) ต้องเป็นที่ดินติดต่อผืนเดียวกัน ในจังหวัดและสำนักงานที่ดินเดียวกัน
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
ขั้นตอนการรังวัด แบ่งแยก รวม สอบเขตที่ดิน
1. รับบัตรคิวจากประชาสัมพันธ์
2. รับคำขอสอบสวน ชำระเงิน ค่ า ธ ร ร ม เ นี ย ม คำขอ
3. ส่งฝ่ายรังวัดดำเนินการ นัดวันทำการรังวัด กำหนดตัวช่างรังวัด กำหนดเงินมัดจำรังวัด
4. ค้นหารายชื่อเจ้าของที่ดินข้างเคียง และพิมพ์หนังสือแจ้งข้างเคียง
5. รับหนังสือแจ้งข้างเคียง วางเงินมัดจำรังวัด รับหลักเขตที่ดิน
6. ช่างรังวัดออกไปทำการรังวัดตามวันที่กำหนดไว้
7. คำนวณเนื้อที่ และเขียนรูปแผนที่ในโฉนดที่ดิน
8. ส่งเรื่องรังวัดคืนฝ่ายทะเบียน เรียกผู้ขอมาจดทะเบียน
9. สอบสวนจดทะเบียนแบ่งแยก
10. ตรวจอายัด
11. ชำระเงินค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน และค่าโฉนด
12. แก้รายการทะเบียน และจดทะเบียนแบ่งแยก
13. สร้างโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก
14. เสนอเจ้าพนักงานที่ดินลงนามและประทับตรา
15. แจกโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
ขั้นตอนการขอแบ่งแยกตรวจสอบเนื้อที่ และรวมหนังสือรับรองการทำประโยชน์
1. เจ้าของที่ดินนำหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเอกสารต่าง ๆ ไปยื่นคำขอ
2. ให้ถ้อยคำในการนัดรังวัด เพื่อกำหนดวันทำการรังวัด
– กำหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัด
– กำหนดเจ้าหน้าที่และสถานที่นัดพบ
3. รับเจ้าหน้าที่ไปทำการรังวัดและปักหลัก จนเสร็จการ
4. ลงนามในเอกสารต่าง ๆ
5. รอรับหนังสือแจ้งให้ไปดำเนินการจดทะเบียน ฯลฯ
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรังวัดหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และโฉนดที่ดิน รายละเอียด
1. ค่าธรรมเนียมออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– ที่ดินเนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่ แปลงละ 30 บาท
– ที่ดินเนื้อที่เกิน 20 ไร่ ส่วนที่เกิน( เศษของไร่ให้คิดเป็นหนึ่งไร่) ไร่ละ 2 บาท
2. ค่าธรรมเนียมการพิสูจน์สอบสวนหรือตรวจสอบเนื้อที่เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– ถ้าเรียกเป็นรายแปลง แปลงละ 30 บาท
– ถ้าเรียกเป็นรายวัน วันละ 30 บาท
– ค่าคัดหรือจำลองแผนที่ แปลงละ 30 บาท
– ค่าคำนวณเนื้อที่หรือสอบแส แปลงละ 30 บาท
– ค่าจับระยะ แปลงละ 10 บาท
3. ค่าธรรมเนียมออกโฉนดที่ดิน
– ที่ดินเนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่ แปลงละ 50 บาท
– ที่ดินเนื้อที่เกิน 20 ไร่ ส่วนที่เกิน( เศษของไร่ให้คิดเป็นหนึ่งไร่ ) ไร่ละ 2 บาท
4. ค่าธรรมเนียมรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดิน
– ถ้าเรียกเป็นรายแปลง แปลงละ 40 บาท
– ถ้าเรียกเป็นรายวัน วันละ 40 บาท
– ค่าคัดหรือจำลองแผนที่ แปลงละ 30 บาท
– ค่าคำนวณเนื้อที่หรือสอบแส แปลงละ 30 บาท
– ค่าจับระยะ แปลงละ 10 บาท
5. ค่าธรรมเนียมเบ็ดเตล็ด
– ค่าคำขอ แปลงละ 5 บาท
– ค่ามอบอำนาจ เรื่องละ 20 บาท
– ค่าปิดประกาศให้แก่ผู้ปิดประกาศ แปลงละ 10 บาท
– ค่าพยานให้แก่พยาน คนละ 10 บาท
– ค่าหลักเขต หลักละ 15 บาท
6. ค่าใช้จ่ายการรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดินหรือพิสูจน์สอบสวน หรือตรวจสอบเนื้อที่เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– ค่าพาหนะเดินทางให้แก่เจ้าพนักงาน พนักงานเจ้าหน้าที่ และคนงานจ้างไปทำการรังวัด ให้จ่ายในลักษณะเหมาจ่ายตามระเบียบ
– กระทรวงมหาดไทยด้วยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
– ค่าเบี้ยเลี้ยงให้แก่เจ้าพนักงาน พนักงานเจ้าหน้าที่ และค่าจ้างคนงานที่จ้างไปทำการรังวัด ให้จ่ายในลักษณะเหมาจ่ายตามระเบียบ
– กระทรวงมหาดไทย ด้วยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
– ค่าป่ายการให้แก่เจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่ หรือผู้แทนที่ไปในการรังวัด ไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
– ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการรังวัดให้จ่ายในลักษณะเหมาจ่ายตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยด้วยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เรื่องละ 100 บาท
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
การคิดค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดิน
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดินที่ผู้ขอจะต้อชำระตามกฎหมาย (กฎกระทรวง ฉบับที่ 47 และ 48 ออกตามความในพระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497) มีดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมรังวัด
– เกี่ยวกับโฉนดที่ดิน แปลง/วัน/ละ 40 บาท
– เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แปลง/วัน/ละ 30 บาท
2. ค่าหลักเขตที่ดิน หลักละ 15 บาท (ตามที่ใช้จริง)
3. ค่าใช้จ่ายในการรังวัดลักษณะเหมาจ่าย ดังนี้
3.1 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าส่งหมายข้างเคียงทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ 200 บาท
3.2 ค่าป่วยการเจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่ ไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
3.3 ค่าพาหนะพนักงานเจ้าหน้าที่และคนงานรังวัด วันละไม่เกิน 1,600 บาท
3.4 ค่าคนงานรังวัด คน/วัน 420 บาท (ตามเขตจังหวัดที่กระทรวงการคลังกำหนด)
ทั้งนี้ การกำหนดวันทำการรังวัดตามข้อ 3.3 และ 3.4 กำหนดตามจำนวนเนื้อที่ ดังนี้
การรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดิน
1. เนื้อที่ไม่เกิน 5 ไร่ เวลาทำการ 1 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่ 3,480 บาท
2. เนื้อที่ไม่เกิน 15 ไร่ เวลาทำการ 2 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 6,760 บาท
3. เนื้อที่ไม่เกิน 30 ไร่ เวลาทำการ 3 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 10,040 บาท
4. เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ เวลาทำการ 4 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 13,320 บาท
การรังวัดเกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์
– เนื้อที่ไม่เกิน 20 ไร่ เวลาทำการ 1 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 2,640 บาท
– เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ เวลาทำการ 2 วัน ค่าใช้จ่ายจะเรียกได้ไม่เกิน 5,080 บาท
ขั้นตอนและค่าใช้จ่าย การรังวัด รวม แบ่งแยก สอบเขตที่ดิน
หมายเหตุ
– กรณีเนื้อที่เกินกว่า 50 ไร่ ทุก 50 ไร่ หรือเศษเกินกว่า 25 ไร่ ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
– กรณีที่ดินตั้งอยู่ในพื้นที่องค์กรปกครองรูปแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร/เมืองพัทยา ฯลฯ หรือเทศบาลนคร หรือเทศบาลเมือง หรือที่สวนเป็นไม้ ยืนต้น เช่น สวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ฯลฯ เป็นต้น ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
– กรณีการรังวัดต้องคำนวณจำกัดเนื้อที่ ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
- กรณีการรังวัดมีที่ดินข้างเคียงมากแปลง ทุกๆข้างเคียง 30 แปลง หรือเศษเกินกว่า 15 แปลง ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
– กรณีการรังวัดแบ่งแยกจัดสรร ทุกๆ 8 แปลง หรือเศษเกินกว่า 4 แปลง ให้เพิ่มวันทำการรังวัด 1 วัน
– กรณีมีเหตุข้อ1 และ 2 รวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน ให้เพิ่มวันทำการรังวัดได้ในกรณีใดกรณีหนึ่งเท่านั้น
จะเห็นว่ามีอะไรค่อนข้างจุกจิกและดูยุ่งยากมากทีเดียว แต่ก็ไม่ยากอะไรสำหรับคนที่เคยทำมาบ้างแล้วจะทำง่ายขึ้น คล่องในการเตรียมตัวเตรียมเอกสาร และที่สำคัญคือเตรียมค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ในแต่ละขั้นตอนด้วย หากคุณไม่รู้เรื่องอะไรเหล่านี้เลยที่ดินที่คุณมีอาจจะค่อย ๆ กลายเป็นของคนอื่นแบบที่คุณไม่รู้สึกตัวเลยก็ได้ ฉะนั้นก็มีความรู้ติดตัวเอาไว้บ้างจะดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมที่ดิน , sharenoi
นี่คือกล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง เช่น แบนเนอร์ โปรโมชั่น บทความ แนะนำร้านค้า หรือ รายการสินค้าเด่น เป็นต้น โดยคุณสามารถแก้ไขหรือลบกล่องนี้ได้หากคุณต้องการ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีการแก้ไขข้อความในกล่องหน้าที่เข้าชม | 66,884 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 44,189 ครั้ง |
เปิดร้าน | 9 มิ.ย. 2562 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |